กุ้งแชบ๊วยไปหนึ่งในอาหารทะเล ที่ชาวไทยคุณเคยกันดี เนื่องจากนำมาประกอบอาหารได้หลากหลายเมนู ทั้งยังมีรสชาติที่ดีในตัว เนื้อแน่น ขนาดตัวมีหลายขนาด ทำให้เลือกไปประกอบอาหาร หรือปรุงรสชาติได้หลากหลายค่อนข้างมาก กุ้งแชบ๊วย หรือ Banana shrimp เมื่อแรกเริ่มเดิมทีนักวิทยาศาสตร์ได้จัดให้อยู่ใน Genus หรือสกุล Penaeus ซึ่งเป็นสกุลเดียวกันกับกุ้งกุลาดำ ส่วนชื่อวิทยาศาสตร์ นั้น เมื่อยุค 20 – 30 ปีที่แล้ว เกิดความเข้าใจที่ผิดไปเกี่ยวกับกุ้งชนิดนี้ว่าในเมืองไทย มีกุ้งแชบ๊วยอยู่ 2 สายพันธุ์คือ Penaeus merguiensis และ Penaeus indicus แต่เมื่อไม่นานมานี้ ได้ค้นพบว่ามีการเรียกชื่อวิทยาศาสตร์ของกุ้งแชบ๊วย เพียงชื่อเดียวนั้นก็คือ Penaeus merguiensis ในปี ค.ศ. 1997 ได้มีนักอนุกรมวิธาน 2 ท่านคือ Dr.Isabel Perez Farfante และ Dr.Brian Kensley ได้รื้อฟื้นศึกษาวิจัย เพื่อแบ่งหมวดหมู่ของกุ้งกันเสียใหม่ โดยพิจารณาจากลักษณะปลีกย่อยหลายประการของกุ้งที่มันมีความแตกต่างกัน กุ้งหลายชนิดจากเดิมที่สังกัดอยู่ในสกุล Penaeus ก็ได้มีการโยกย้ายไปอยู่ในสกุลอื่น ๆ เป็นอันว่าทั่วโลกได้เข้าใจตรงกันแล้วว่า กุ้งแชบ๊วย ในเมืองไทย มีแค่หนึ่งเดียวเท่านั้น

นอกจากความอร่อยของเนื้อ กุ้งแชบ๊วย ที่เป็นอันทราบกันดีโดยทั่วกันแล้วว่า รสชาตินั้นเลื่องลือไม่เป็นสองรองใคร มีขนาดใหญ่พอ ๆ กับ กุ้งลายเสือ เลยทีเดียว คุณประโยชน์ของ กุ้งแชบ๊วย เอง ก็มากมายไม่น้อยหน้า ซึ่ง
ประโยชน์ของกุ้งแชบ๊วย
คุณประโยชน์ของ กุ้งแชบ๊วย นั้นมีมากมายหลายประการ อย่างเช่น ช่วยลดระดับคลอเลสเตอรอลในกระแสเลือด ช่วยลดความดันโลหิต ช่วยทำให้ผิวพรรณสดใส เปล่งปลั่ง ช่วยพัฒนาสมอง และพัฒนาเนื้อเยื่อของระบบประสาท และช่วยพัฒนาสายตาของเด็ก ๆ ได้ มีผลต่อการรักษาอาการหดหู่ หอบหืด ไขข้ออักเสบ และโรคความจำเสื่อม และการกินกุ้งในปริมาณมากในเพศหญิงในขณะตั้งครรภ์ จะช่วยเพิ่มพัฒนาการด้านความรู้ความเข้าใจของลูกเมื่อคลอดออกมาแล้วได้เป็นอย่างดี เรียกได้ว่าคุณประโยชน์มากมี ทั้งยังมรความอร่อยมากมาย จะทานดิบก็ได้ ทานสุกก็ดี จึงนำมาทำเป็นเมนูได้หลายหลายแบบครอบจักรวาล และล้วนแล้วแต่เป็นเมนูที่ขึ้นชื่อเรื่องความอร่อยทั้งสิ้น