การแปรรูปอาหารทะเลในปัจจุบันกลายเป็นที่นิยมอย่างมาก การเพิ่มมูลค่าทางสินค้าโดยทำให้มีความหลากหลายมากขึ้น ไม่ว่าจะด้วยรสชาติ ลักษณะภายนอก ล้วนแล้วแต่เป็นผลดีกับชาวประมงและผู้ประกอบการต่าง ๆ เพราะสามารถเป็นการแก้ปัญหาเรื่องสัตว์ทะเลล้นตลาดได้เป็นอย่างดี ดังนั้นวันนี้เราขอเสนอการแปรรูปปลาไส้ตันในเชิงอุตสาหกรรมว่าชาวประมงเขาทำกันอย่างไรมาก อยากจะรู้มั้ยคะว่า ปลาไส้ตันตัดหัวเพียงหนึ่งถุง มีอะไรให้เราได้ศึกษากันบ้าง
ปลาไส้ตันมีอะไรดี
ปลาไส้ตันมีชื่อเรียกอีกอย่างว่าปลากะตัก ในภาษาอังกฤษเราเรียกว่า “Anchovy” โดยความนิยมในการรับประทานปลาไส้ตันนั้นสูงมากทีเดียว หลายคนอาจจะเคยรับประทานกันมาแล้ว แต่ไม่รู้จักหรือไม่แน่ใจว่ามันใช่ปลาไส้ตันหรือเปล่า โดยประเทศไทยเราได้ทำการส่งออกปลาไส้ตันไปขายยังทวีปยุโรปมานาน ตั้งแต่อดีต ทั้งในด้านการแปรรูปหรือว่าแบบสด สามารถทำเงินให้กับประเทศไทยของเรา ในแต่ละปีเหยียบเป็นค่าตัวเลขถึงล้านล้านบาท ดังนั้นไม่ใช่เรื่องแปลกเลยที่ชาวประมงจะนิยมนำปลาไส้ตันมาแปรรูป แต่ก่อนอื่นเรามารู้ถึงลักษณะของปลาไส้ตันกันเลยค่ะว่า มีรูปร่างหน้าตาเป็นอย่างไร
ลักษณะของปลาไส้ตันหรือปลากะตัก คือ ลำตัวยาวเรียวด้านข้างแบน ท้องเป็นสัน เกล็ดบริเวณหน้าครีบท้องแข็งเป็นหนาม หัวโต จะงอยปากสั้น ปากกว้างและเฉียงขึ้นข้างบน ครีบหลังและครีบก้นมีขนาดใกล้เคียงกัน ครีบหางลึกเป็นแฉก ครีบหูและครีบท้องมีขนาดเล็ก โดยจะอาศัยแพร่กระจายอยู่ทั่วบริเวณอ่าวไทย และบริเวณห่างฝั่งประมาณ 10-20 ไมล์ค่ะ
ปลาไส้ตันเป็นปลาที่สามารถรับประทานได้ง่าย อร่อย แถมโภชนาการก็สูงเช่นเดียวกัน โดยค่าพลังงานสารอาหารของปลาไส้ตัน 85 กรัม ให้พลังงานเพียงแค่ 10 กิโลแคลอรีเท่านั้น ต่ำมาก เหมาะสำหรับสาว ๆ ที่ต้องการลดความอ้วน หรือใครที่เป็นสาย Keto หรือ clean food ต้องลอง! ดังนั้นเรามาชำแหละดูกันดีกว่าว่าปลาไส้ตัน 1 ตัว ให้คุณค่าสารอาหารอะไรกับเราบ้าง
ประโยชน์ของปลาไส้ตัน
- โอเมก้า 3
ในระบบร่างกายของมนุษย์เนี่ย เราไม่สามารถสังเคราะห์พวกกรดไขมันโอเมก้า 3 ได้ด้วยตัวเอง ดังนั้นการรับประทานปลาไส้ตันจึงเป็นอีกทางเลือกที่สามารถทำให้เราได้รับสารอาหารอย่างครบถ้วน กรดไขมันโอเมก้า 3 ส่งผลดีต่อระบบการทำงานหัวใจและระบบทางเดินอาหารเป็นอย่างมาก เพราะ ลดภาวะอักเสบ เช่น การเกิดแผลในลำไส้ใหญ่ และโรคโครนส์ ลดหลอดเลือดแดงแข็งตัวจนไม่สามารถทำให้การแลกเปลี่ยนแก๊สออกซิเจนซึ่งขัดต่อการทำงานของระบบ ลดการจับตัวกันของเกล็ดเลือด โดยเฉพาะผู้หญิงทั้งหลาย เพื่อไม่ให้ประจำเดือนจับตัวกันเป็นลิ่มเลือด
- แคลเซียม
แคลเซียมเป็นสารอาหารหลักที่มีความสำคัญเป็นอย่างมาก เพราะในกระดูกของมนุษย์ประกอบไปด้วยแคลเซียมถึง 99 เปอร์เซ็นต์ นอกจากเป็นส่วนประกอบหลักของกระดูก แคลเซียมยังให้อะไรหลายอย่างกับมนุษย์ ดังนี้
- ช่วยในการควบคุมน้ำหนัก
- ช่วยเรื่องระบบประสาท โดยเฉพาะการส่งต่อสัญญาณประสาท
- สามารถทำให้เราหลับสบายขึ้น
- มีส่วนช่วยให้จังหวะการเต้นของหัวใจเป็นปกติ
- เหมาะสำหรับผู้สูงวัย เพราะช่วยป้องกันอาการกระดูกหักง่าย
- ช่วยลดความเสี่ยงของมะเร็งลำไส้ใหญ่
- บรรเทาอาการปวดท้องประจำเดือน เพราะแคลเซียมจะไปช่วยให้การบีบตัวของมดลูกลดลง
- ช่วยในการแข็งตัวของเลือด เช่น ถ้าเรามีบาดแผล เลือดก็จะหยุดไหลเร็ว
- โพรแทสเซียม
การรับประทานปลาไส้ตันเข้าไป จะส่งผลให้ร่างกายเกิดการทำงานร่วมกับโซเดียม เพราะปริมาณโพแทสเซียมในปลาไส้ตันสูงมาก ส่งผลต่อระบบการควบคุมสมดุลของน้ำในร่างกาย หากโพแทสเซียมในร่างกายเสียสมดุลจะทำให้การทำงานของเส้นประสาทและกล้ามเนื้อเสียไป โพแทสเซียมยังช่วยลดความดันโลหิต ช่วยให้มีสติปัญญา จิตใจร่าเริงแจ่มใสได้ โดยการส่งออกซิเจนไปเลี้ยงที่สมอง ช่วยรักษาภูมิแพ้ ช่วยกำจัดของเสียในร่างกาย อีกทั้งยังสามารถป้องกันตะคริวได้เป็นอย่างดีอีกด้วย
- ฟอสฟอรัส
ฟอสฟอรัสในปลาไส้ตัน ส่งผลต่อกระบวนการสร้างสารเคมีทุกส่วนในร่างกาย สำคัญอย่างมากต่อการทำงานของไต ร่างกายของคนเราจำเป็นต้องใช้ฟอสฟอรัสในการส่งต่อสัญญาณประสาท โดยฟอสฟอรัสยังช่วยส่งเสริมสุขภาพช่องปาก พวกเหงือกและฟัน สามารถบรรเทาอาการกระดูกและข้อต่ออักเสบ มีส่วนช่วยในกระบวนการเผาผลาญไขมันและคาร์โบไฮเดรต ทำให้ร่างของเราสดชื่นอยู่ตลอดเวลา อีกทั้งยังมีส่วนช่วยในการซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของร่างกาย
- วิตามินเอ
ในส่วนข้อนี้ สาว ๆ คนไหนรับประทานปลาไส้ตันเป็นประจำคงต้องร้องกรี๊ด เพราะในปลาไส้ตัน 1 ตัว มีวิตามินเอถึง 20 มิลลิกรัม ถามว่าวิตามินเอดียังไง… วิตามินเอสามารถช่วยรักษาสิวได้ดีค่ะ ทำให้ใบหน้ากระจ่างใส ป้องกันผิวแห้งหยาบ ผิวหนังอักเสบ ช่วยให้ตาสู้แสงได้ในเวลากลางวัน สำหรับผู้ที่ขาดวิตามินเอ จะมีอาการตาไม่สู้แสง เมื่อเจอแสงแดด, ตาไวต่อแสง, แสบตา และทำให้น้ำตาไหลได้ง่ายอีกด้วย อีกทั้งใครที่ชอบเหงื่อไหลเยอะ ๆ จนสร้างความน่ารำคาญ การรับประทานปลาไส้ตันก็จะส่งผลในการช่วยเพิ่มเคราตินในร่างกาย เหงื่อก็จะไหลน้อยลงค่ะ