วิธีทำฮ่อยจ๊อกุ้ง

วิธีทำฮ่อยจ๊อกุ้ง

อยากจิงจุ้ง… (อยากกินกุ้ง)

เคยได้ยินประโยคนี้ ที่เคยเป็นไวรัลเมื่อปีที่แล้วมั้ยคะ กระแสรับประทานกุ้ง เมื่อปีที่แล้วเรียกได้ว่า…ฟีเวอร์มาก เพราะหันไปทางไหนก็เจอ ไถโซเชียลมีเดียอะไรก็เจอเต็มหน้าฟีดข่าวไปหมด เผยให้เห็นน้องกุ้งตัวอ้วน ๆ นอนแก้ผ้าอยู่ ทำเอาน้ำลายสอ… อยากจิงจุ้งด้วย

กินขนมจีบกุ้งดีมั้ย… แต่คิดดูอีกทีกินตอนเช้าทุกวันเลย หน้าเป็นเกี๊ยวแล้ว งั้นมากินฮ่อยจ๊อกุ้งกันดีกว่า ขั้นตอนไม่ได้ยุ่งยากอย่างที่คิด หลายคนคงคิดว่าซื้อกินดีกว่า…ขี้เกียจทำ! ขั้นตอนเยอะ! แต่บางครั้งเราไปที่ร้าน เราแทบจะไม่ได้สัมผัสของเนื้อกุ้งเลย ได้แต่แป้งสาลีที่พวกพ่อค้าแม่ค้า แอบใส่ลงมา ร้ายมากจริง ๆ กินไปก็อ้วนขึ้นไปอีก หรือถ้ามี…มันก็คือวิญญาณน้องกุ้งค่ะ สารอาหารจากกุ้งก็ไม่ได้ซักนิดเลย ฉะนั้นวันนี้อยากกินฮ่อยจ๊อกุ้ง เราจัดให้ได้ค่ะกับสูตรสไตล์โฮมเมด ทำกินที่บ้าน แถมเนื้อกุ้งนี่…เน้น ๆ มาเด้ง ๆ ในปากกัน

เริ่มที่เนื้อกุ้งก่อนที่กว่า ขอเสริมตรงนี้นะคะว่า ใช้กุ้งประเภทอะไรก็ได้ ให้ดีเนื้อกุ้งต้องสด สะอาด แถมไม่มีกลิ่นนะคะ แต่คุณย่าแอบกระซิบมาว่า…ฮ่อยจ๊อนิยมใช้กุ้งขาวในการทำนะคะ เพราะเนื้อจะหวานพอดี กรอบ ๆ เด้ง ๆ เหมาะสำหรับเมนูทอด

วัตถุดิบฮ่อยจ๊อกุ้ง

  1. เนื้อกุ้งบดละเอียด 700 กรัม
  2. เนื้อไก่หรือหมูสับละเอียด 100 กรัม (ถ้าเนื้อไก่ ขอให้เลือกเป็นส่วนติดสะโพกนะคะ แต่ถ้าเนื้อหมูให้เลือกตรงสันในค่ะ เพราะว่าทั้งสองอย่าง ที่บอกไปเนื้อจะนุ่มพอดี)
  3. มันหมูบดละเอียด 30 กรัม
  4. ไข่ไก่ 2 ฟอง
  5. กระเทียมสับ 1 ช้อนโต๊ะ
  6. รากผักชีสับ 1 ช้อนโต๊ะ
  7. ต้นหอมซอย ½ ถ้วย
  8. น้ำตาลทราย 1 และ ½ ช้อนโต๊ะ
  9. น้ำมันหอย 3 ช้อนโต๊ะ
  10. น้ำมันงา 2 ช้อนโต๊ะ
  11. เหล้าจีน 1 ช้อนโต๊ะ
  12. แห้วสับ 1 ถ้วย
  13. พริกไทยป่น 2 ช้อนโต๊ะ
  14. แป้งมัน 3 ช้อนโต๊ะ
  15. ซีอิ๊วขาว 2 ช้อนโต๊ะ
  16. แผ่นฟองเต้าหู้ 1 ห่อ
  17. เชือกฟางสำหรับมัด
  18. น้ำมันพืช (แนะนำนะคะว่า ใช้พวกน้ำมันรำข้าว, น้ำมันมะพร้าว, หรือน้ำมันมะกอก ในการทอด เพราะน้ำมันพืชจะมีไขมันทรานส์ที่ร่างกายไม่สามารถกำจัดออกไปได้ ทำให้ไปสะสมอยู่ตรงบริเวณผนังหลอดเลือดได้ หรือใครที่ต้องการจะเฮลตี้แบบสุด ๆ ขอแนะนำหม้อทอดไร้น้ำมันค่ะ)

วิธีทำ ฮ่อยจ๊อกุ้ง

  1. เตรียมอ่างผสมเลยค่ะ ตอกไข่ลงไป ใส่เนื้อสัตว์สับละเอียดที่เรามีจะเป็นหมุหรือไก่ก็ได้ ตามด้วยกุ้งสับ มันหมูบดละเอียด รากผักชีและกระเทียมสับละเอียด ปรุงรสด้วยน้ำตาลทราย น้ำมันหอย เหล้าจีน ซีอิ๊วขาว และน้ำมันงา จากนั้นก็ใช้ไม้พายกวน คลุกให้เข้ากันนะคะ ถ้าให้ดีก็ใส่ถุงมือแล้วขยำเลยค่ะ
  2. คลุกเสร็จก็ใส่แห้วลงไปเลย กินแห้ว…แต่ไม่แห้วเนอะ ตามด้วยพริกไทยขาวป่น แป้งมัน คลุกเลยค่ะ แล้วทิ้งไว้ประมาณ 2-3 ชั่วโมง เพื่อให้ทุกอย่างเข้าที่ แต่ถ้าจะให้ดีคือ ทำตัวไส้ไว้เมื่อวาน ทิ้งไว้ข้ามคืนเพื่อให้ทุกอย่างเข้าที่แบบจริง ๆ ให้เครื่องปรุงเข้าเนื้อสัตว์
  3. ขั้นตอนนี้…เรามาลองเป็นคนขายซูชิกันค่ะ ถ้าใครชำนาญก็ไม่ต้องมีโรลม้วนซูชิก็ได้ค่ะ แต่ถ้าใครมือใหม่หน่อย ก็ซื้อที่ม้วนโรลซูชิมาค่ะ ราคาไม่แพง เอาแผ่นฟองเต้าหู้มากางออกให้คล้ายกับแผ่นสาหร่าย พรมน้ำซักหน่อย เพื่อให้แผ่นฟองเต้าหู้มีความนุ่ม สามารถห่อเป็นโรลได้
  4. เอาตัวไส้ออกมาวางตามแนวยาวค่ะ วางแล้วกด ๆ หน่อย จากนั้นต้องมีสติและสมาธินะคะ ค่อย ๆ ม้วนไปเรื่อย ๆ จนเรียบร้อย ตัดตกแต่งฟองเต้าหู้ส่วนเกินซักหน่อยเพื่อความสวยงาม ใช้เชือกฟางมัดเป็นปล้อง ๆ เป็นลูก ๆ มัดให้มีขนาดไม่เล็กหรือใหญ่จนเกินไป เพราะเวลาเราจะรับประทาน เราจะตัดตามรอยเชือกฟาง
  5. เอาไปเข้าช่องฟรีชหรือว่าพึ่งลมให้แห้ง แต่มีอีกทริคก็คือโรยแป้งบาง ๆ ค่ะ เพื่อให้ตัวฮ่อยจ๊อกุ้งเรามีความแห้ง เวลาเราเอาลงไปทอดแล้วน้ำมันจะได้ไม่กระเด็นโดนเรา
  6. ตั้งกระทะเลยค่ะ เปิดไฟแรง ใส่น้ำมันลงไป รอน้ำมันเดือดก็ลงทอดได้เลย ทอดจนมีสีเหลืองกรอบ น่ารับประทานนะคะ พอสุกเราก็ตักขึ้นมาสะเด็ดน้ำมันไว้ซักครู่นึง
  7. จัดจานเสิร์ฟได้เลยค่ะ หั่นตามรอยเชือกฟางพร้อมตกแต่งซักหน่อย ถ้ามีผักเครื่องเคียงอย่าง ผักกาดแก้ว แครอท แตงกวา ก็สามารถเอามาจัดจานได้ด้วยนะคะ

เป็นไงกันบ้างค่ะ วิธีการทำฮ่อยจ๊อที่ได้ให้กันไป เนื้อกุ้งเน้น ๆ ไม่ต้องไปหงุดหงิด อารมณ์เสีย ตามร้านอาหารหรือภัตตาคาร ว่าทำไมเนื้อกุ้งน้อยจัง เราได้บอกสูตรแก่พวกคุณ ๆ ทั้งหลายแล้วล่ะค่ะ จะทำรับประทานกันเนื่องในโอกาสพิเศษอะไรก็ได้ ยิ่งมีเด็ก ๆ ด้วยแล้ว เรียกได้ว่า…เป็นอาหารที่ขายดิบขายดีจนเกลี้ยงค่ะ แต่จะกินเปล่า ๆ หรอคะ… กินฮ่อยจ๊อทั้งที น้ำจิ้มล่ะไปไหน! วันนี้เรามีสูตรน้ำจิ้มบ๊วย ที่ทำได้ง่าย ๆ มาฝากกันด้วยค่ะ

น้ำจิ้มบ๊วย

วัตถุดิบ น้ำจิ้มบ๊วย

  1. บ๊วยดองบดพอละเอียด 5 เม็ด
  2. น้ำบ๊วยดอง 3 ช้อนโต๊ะ
  3. น้ำตาล 1 กิโลกรัม (มีเคล็ดลับทางสุขภาพมาบอกกันค่ะว่า…เราสามารถใช้หญ้าหวานทดแทนน้ำตาลได้ค่ะ เพื่อทางเลือกสุขภาพ เพราะตัวหญ้าหวานให้ความหวานมากกว่าน้ำตาลทั่วไป 250-300 เท่า แถมแคลอรีที่เราจะได้รับยังน้อยมาก)
  4. เกลือ 2 ช้อนโต๊ะ
  5. น้ำปลา 1 ถ้วย
  6. น้ำส้มสายชู 3 ถ้วยครึ่ง
  7. กระเทียมบด 3 ช้อน
  8. พริกบด 1 ช้อนโต๊ะ (ขึ้นอยู่กับเด็ก ๆ นะคะ ถ้าเด็ก ๆ ชอบเผ็ดก็ใส่เพิ่มลงได้)
  9. ถั่วลิสงบด 1 ถ้วย
  10. น้ำเปล่า 2 ถ้วย
  11. แครอทสับ ½ ถ้วย
  12. ผักชีโรยหน้านิดหน่อย เพื่อความหอมและสีสัน

วิธีทำ น้ำจิ้มบ๊วย

  1. ตั้งหม้อต้ม เติมน้ำพอประมาณนะคะ ต้มไปซักพักให้น้ำเดือด ใส่น้ำบ๊วย เนื้อบ๊วยบด น้ำตาล เกลือ น้ำส้มสายชู น้ำปลา กระเทียม จากนั้นก็เคี่ยวไปซักพักค่ะ เพื่อให้น้ำจิ้มของเราเหนียวได้ที่
  2. พอเราคิดว่าเหนียวพอใช้ได้แล้วก็ใส่พริกลงไปเพิ่ม ใส่พริกปุ๊บปิดไฟป๊บเลยนะคะ และพักให้เย็นซักครู่นึง
  3. ตักเสิร์ฟใส่ถ้วยน้ำจิ้ม โรยด้วยแครอทและถั่วลิสงบด ตามด้วยผักชีนิดหน่อยเพื่อกลิ่นหอมและความดูน่ารับประทานที่มากขึ้น

จริง ๆ แล้วฮ่อยจ๊อเป็นอาหารทานเล่นที่กินกับน้ำจิ้มอะไรก็อร่อยค่ะ ทั้งน้ำจิ้มไก่หรือซีฟู้ดก็ได้ แล้วแต่เราจะปรับเปลี่ยนสูตรกันไปค่ะ เรื่องของอาหารเราสามารถประยุกต์ได้ เผื่อว่าเราจะได้ค้นพบพรสวรรค์การทำอาหารกัน แถมยังสามารถทำขายเป็นอาชีพได้อีกหรือทำแจกเป็นของขวัญก็ได้ แต่! อยากจะฝากเรื่องสุขภาพไว้ค่ะว่า ฮ่อยจ๊อกุ้งเป็นของทอด ฉะนั้นแคลอรีที่เราจะได้หลังจากรับประทานก็ค่อนข้างสูงอยู่ทีเดียว ฉะนั้นอย่าลืมชวนกันไปออกกำลังกายหลังจากรับประทานนะคะ อร่อยได้แบบหุ่นที่ดี ฟิตแอนด์เฟิร์มกัน!